อังกฤษยุคโรมัน
55 ปีก่อนคริสตศักราช จูเลียส ซีซาร์ ได้นำทัพโรมันเข้ารุกรานอังกฤษแต่ไม่สำเร็จ อังกฤษ
ยังคงเป็นอิสระจากการแผ่อำนาจยึดครองของจักรวรรดิโรมันนานเกือบ 100 ปี อย่างไรก็ตาม
ในปี ค.ศ. 43 จักรพรรดิคลอเดียสได้นำทัพโรมันบุกเข้ามาในอังกฤษอีก และครั้งนี้ชนพื้นเมือง
อังกฤษบางเผ่าได้ต่อสู้ป้องกันดินแดนของตน แต่ทัพโรมันมีชัยชนะสามารถเข้ายึดครองพื้นที่
เกือบทั้งหมดของอังกฤษได้ หนึ่งในบรรดาผู้นำเผ่าที่สู้รบกับชาวโรมัน คือ พระราชินีบูดิกกา
ผู้นำชนเผ่าไอซินีซึ่งเคยครอบครองพื้นที่ภาคตะวันออกของอังกฤษในปัจจุบัน ทุกวันนี้ชาวอังกฤษ
ยังคงระลึกถึงพระราชินีบูดิกกา และมีอนุสาวรีย์ของพระนางอยู่บนสะพานเวสต์มินสเตอร์ใกล้
กับตึกรัฐสภาในกรุงลอนดอน
สก็อตแลนด์
อาณาบริเวณที่เป็นพื้นที่สก็อตแลนด์ในปัจจุบันไม่เคยตกอยู่ภายใต้การยึดครองของชาวโรมัน
และจักรพรรดิเฮเดรียนได้ทรงสร้างกำแพงขึ้นมาในพื้นที่ตอนเหนือของอังกฤษ เพื่อป้องกันการ
รุกรานจากชนเผ่าพิกต์ (บรรพบุรุษของชาวสก็อตแลนด์) นอกจากจะสร้างกำแพงแล้ว ยังมีการ
สร้างป้อมปราการขึ้นมาด้วย บางส่วนของกำแพงเฮเดรียน ตลอดจนป้อมเฮาส์สเตด และป้อม
วินโดแลนดา ยังมีปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบัน กำแพงเฮเดรียนเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยม
จากนักเดินเที่ยว และได้รับเลือกให้เป็นแหล่งมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโก (องค์การศึกษา
วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ)
ชาวโรมันปักหลักอยู่ในอังกฤษเป็นเวลานาน 400 ปี และได้สร้างถนนและอาคารสาธารณะ
ตลอดจนจัดวางระเบียบโครงสร้างทางกฎหมาย และนำพืชพันธุ์และสัตว์ชนิดใหม่เข้ามาใน
อังกฤษ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 3 และที่ 4 ชุมชนชาวคริสต์กลุ่มแรกได้เริ่มปรากฏตัวขึ้นใน
อังกฤษ